สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน หลังห่างหายจากการเขียน blog ไปนาน วันนี้เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับการเป็นพิสูจน์อักษรฟรีแลนซ์มาเล่าให้ฟัง (อ่าน) กันค่ะ แต่ไม่รับประกันความสนุกนะคะ (ฮา)
หลังจากที่เรารับงานฟรีแลนช์เต็มตัวมาได้ราว 1 ปี มีลูกค้าหลากหลายมากค่ะ ทั้งนักศึกษา อาจารย์ สำนักพิมพ์ บุคคลทั่วไป รวม ๆ แล้ว 20 กว่าคนได้ ที่ทั้งจ้างต่อเนื่อง และไว้ใจเราให้ตรวจงานสำคัญ ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ คุณทำให้เราเก่งขึ้นอีกขั้นหนึ่งค่ะ …
อะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า หลังจากเรารับงานมาได้สักระยะ ก็มีลูกค้าคนหนึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังอันดับหนึ่ง ศึกษาในคณะกฎหมาย ติดต่อให้เราตรวจหนังสือของเขาค่ะ ตกลงราคากันเรียบร้อย เขาก็ส่งสัญญามาให้เราเซ็น เราก็อ่านดู ใจความหลักคือ ห้ามเผยแพร่งานของเขา และไม่มีการเรียกเก็บค่าตรวจเพิ่มเติมเด็ดขาด ซึ่งเราก็โอเคนะคะ เนื่องจากเรามีจรรยาบรรณอย่างสูงอยู่แล้วค่ะ เราไม่มีทางเปิดเผยความลับ หรือผลงานของลูกค้า แต่ !!! มาสะดุดกับด้านท้ายของสัญญา… ถ้ามีการผิดข้อตกลง ต้องจ่ายค่าเสียหาย 20 ล้านบาท !!!!
แลกกับเงินค่าตรวจ 800 บาท นี่ไม่คุ้มเลยนะคะ (ฮา) เราก็เลยแอบสวดลูกค้าไปนิดหน่อย ลูกค้าถามเราว่า ถ้าเราไม่ได้คิดจะผิดสัญญา จะกลัวทำไม… เราก็เลยตอบไปว่า สัญญาคุณมีช่องโหว่ “ห้ามดาวน์โหลดลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์” แล้วดิฉันจะทำงานยังไงเล่าคะ? ยังไงก็ต้องโหลดลงเครื่องเพื่อตรวจงาน และอีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าเกิดงานมันไปหลุดตอนที่ส่งให้คุณแล้ว เราจะไว้ใจได้ยังไงคะว่าคุณจะไม่หักหลังเรา มาเรียกค่าเสียหายจากเรา แม้ว่าศาลจะไม่ให้จ่ายถึง 20 ล้านก็เถอะ! ซึ่งหลังจากพูดคุยกัน ทางลูกค้าจะแก้สัญญาตรงดาวน์โหลดลงเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ แต่เราเสียความรู้สึกไปแล้วค่ะ… เลยตัดสินใจไม่รับงานดีกว่า ปรึกษาเพื่อนที่เป็นทนายมันก็บอกว่าโหดเกินไป ที่สำคัญไม่คุ้มเลยค่ะระหว่างความเสี่ยงกับค่าจ้างที่ได้รับ
ไม่แน่นะคะ ตอนนี้ผลงานของเขาอาจจะกำลังโด่งดัง หรือกอบกู้โลกได้แล้วก็เป็นไปได้!
ซีเรียสไหมคะ คุณผู้อ่าน แค่เรื่องแรกเอง มาต่อกันที่เรื่องที่สองดีกว่า อันนี้มาสไตล์ขำ ๆ กันบ้าง
หลังจากที่เราประกาศรับงานพิสูจน์อักษร และให้ไลน์ไอดี อีเมล กับผู้ที่สนใจงานด้านนี้ หรือปรึกษาเรื่องต่าง ๆ ก็มีทั้งพี่ ๆ น้อง ๆ ที่น่ารักหลายคนค่ะ ที่เป็นพิสูจน์อักษร หรือเพิ่งเริ่มทำงาน สอบถามความรู้บางประการเกี่ยวกับคำต่าง ๆ บ้างก็แลกเปลี่ยนเรื่องอาชีพพิสูจน์อักษร บ้างก็ชอบบทความของเรา บางคนก็กลายเป็นกัลยาณมิตรกันเลยทีเดียวค่ะ ทำขนมส่งมาให้เราแทนคำขอบคุณบ้าง ซึ่งเราขอขอบคุณสำหรับข้อความมากมายที่ส่งมานะคะ แต่ก็มีบ้างบางคนที่เราไม่ได้ตอบ ไม่ใช่ว่าหยิ่งอะไรนะคะ แต่เราไม่มีเวลา หรือบางเรื่องเราก็อธิบายใน blog ไว้แล้ว …
วันหนึ่งที่เราเจอคือ มีผู้หญิงคนหนึ่งส่งข้อความมาว่า
“พี่ค่ะ แบ่งงานให้หนูหน่อย หนูอยากเป็นพิสูจน์อักษรคะ”
….
เห็นอะไรในข้อความนี้ไหมคะ คุณผู้อ่าน … นี่ไม่ใช่การประจาน เพียงแต่ว่า น้องยังใช้คะ ค่ะ ยังไม่ถูกต้องเลย จะให้พี่แบ่งงานอะไรให้คะ? งานนี้ยังไม่เหมาะกับน้อง แต่เราก็ไม่กล้าที่จะพิมพ์ตอบไปแบบนั้น เลยเลือกที่จะเงียบดีกว่า .. หรือมีอีเมลส่งมา สมัครงานพิสูจน์อักษร กับเรา…
“พี่คะ หนูอยากทำงานนี้ นี่เป็นตารางเรียนเทอมหน้าของหนู” แนบไฟล์มาให้เสร็จสรรพ…เดี๋ยวนะคะ ตรงไหนที่พี่บอกว่า พี่รับสมัครงาน พี่ “รับพิสูจน์อักษร” ค่ะ และอธิบายรายละเอียดราคาไว้หมดแล้ว ถ้าน้องยังไม่ยอมอ่านจนจบ หรืออ่านแค่ผ่าน ๆ ไม่ตีความ น้องก็ยังไม่เหมาะที่จะทำงานด้านนี้ …. (เช่นเคยค่ะ เราไม่กล้าที่จะพิมพ์ตอบไปเช่นนั้น เลยเลือกที่จะเงียบดีกว่า)
หรือบางคนแอดมาปรึกษาค่ะ ว่าอยากทำงานด้านนี้ ควรทำยังไง เมื่อเราแนะนำไป และถามเขาว่า เคยมีประสบการณ์ด้านนี้หรือชอบอ่านหนังสือไหมคะ เขาตอบเราว่า “ดิฉันเป็นครูภาษาไทยค่ะ ออกข้อสอบ…ทุกปี มั่นใจมากว่ามีความรู้มาก ๆ” ท่าทีที่มั่นใจในตัวเองสูง เราเชื่อว่าเขาน่าจะมีความรู้มากกว่าคนจบเกียรตินิยมภาษาไทยเหรียญทองแบบเราแน่ ๆ ค่ะ เพราะเราไม่เลือกอาชีพครู เราลืมทางด้านเนื้อหาไปเยอะทีเดียว …แต่เราก็ไม่อยากขัดคุณครูนะคะ การเป็นครูใช่ว่าจะเป็นนักพิสูจน์อักษรกันได้ดีทุกคน …เพราะครูก็มีหลายแบบค่ะ คนที่เป็นนักพิสูจน์อักษรได้ดีสำหรับเรา คือนักอ่าน และช่างสงสัยค่ะ … (เราเลยเลือกที่จะเงียบ เพราะไม่กล้าตอบไป)
บางทีเราก็เป็นคนตรงเหมือนกัน แต่บางอย่างก็ไม่สามารถตอบได้ทุกอย่างดังใจคิด เพื่อรักษาน้ำใจคนที่เขาอุตส่าห์อยากหวังพึ่งเรา …
ชักจะเครียดแล้วไหมคะ คุณผู้อ่าน 😑 ยังมีอีกหลายเรื่องราวเลยค่ะ ที่อยากจะเล่าเป็นประสบการณ์ ที่มีทั้งเครียด ขำขัน ครบรส… ไว้มาติดตามตอนต่อไปกับพิสูจน์อักษรสตอรี่นะคะ
จนกว่าจะพบกันใหม่
สิรินัดดา
ติดต่องานพิสูจน์อักษรได้ที่
Line id : sirinadda-y (ช่องทางที่ไวที่สุด)
Facebook : Yungie Sirinadda
E-mail : sirinaddaa@gmail.com